วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

30 ความจริง!!! ที่ผู้หญิงเถียงไม่ได้ และไม่กล้าเถียง

30 ความจริง!!! ที่ผู้หญิงเถียงไม่ได้ และไม่กล้าเถียง

1.ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนแต่มีของ 4 อย่างที่ผู้หญิงต้องหยุดดู..ตุ้มหู กระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า
2.ผู้หญิงชอบกิน เค้ก ช็อกโกแลต และชอบบ่นว่าตัวเองอ้วน
3.เวลาเธอถามว่าเธออ้วนไปหรือเปล่า? ถ้าคุณตอบว่าเปล่า เธอจะไม่เชื่อ แต่ถ้าคุณตอบว่าอ้วน เธอก็จะโกรธ
4.หากจะอธิบายเรื่องเวรกรรมให้ผู้หญิงเข้าใจให้ยกเรื่องสลิปบัตรเครดิตมาเป็นตัวอย่าง
5.ผู้หญิงชอบให้คนมาจีบ แต่ไม่ได้ชอบทุกคนที่เข้ามาจีบ
6.ผู้หญิงเกิดมาคู่กับครีมทาผิวและโฆษณาครีมทาผิวทุกตัวได้ผลเสมอ
7.ผู้หญิงไม่เคยเหน็ดเหนื่อยจากการเดินชอปปิ้ง และหากนับก้าวระหว่างที่เธอเดิน คุณคงไม่เชื่อในระยะทางที่วัดได้
8.เวลาที่ผู้หญิงบอกว่าไม่มีอะไร แปลว่ามีอะไร และผู้ชายไม่รู้หรอก
9.เวลาผู้หญิงร้องไห้ เธอจะต้องการการปลอบโยน แต่ถ้าไปถาม เธอจะบอกว่า "ไม่ต้อง"
10.ผู้หญิงสนใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลายของกระเป๋าหรือตุ้มหู อย่าถามความเห็นของคุณผู้ชายเลยเพราะเขามองไม่ออกจริงๆ
11.ผู้หญิงใช้ลิปสติกไม่เคยหมดแท่ง
12.ผู้หญิงชอบสมัครฟิตเนสและจินตนาการว่าตัวเองจะฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้นในสามเดือนข้างหน้า แต่หลังสมัครเสร็จเธอจะแวะไปที่ร้านกิฟท์ช็อปที่อยู่หน้าฟิตเนสและนานๆ จะมาที่นี้สักที
13.ผู้หญิงเกิดมาคู่กับดอกไม้ เมื่อได้รับดอกไม้ยิ่งช่อใหญ่ยิ่งดี
14.ผู้หญิงจำวันทุกวันเก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นวันแรกที่เจอ วันแรกที่คบ วันครบรอบ วันเกิด และวันอะไรอีกมากมายและนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เธอทะเลาะกับแฟน
15.ผู้หญิงชอบอ่านดวงในแมกกาซีนและบอกว่าแม่นมาก โดยที่ผู้ชายไม่ค่อยเชื่อ
16.คำขอโทษที่ดีที่สุดคือ "ไปชอปปิ้งมั้ย?"
17.ผู้หญิงไม่รู้ว่าที่เปิดกระโปรงรถอยู่ไหน เพราะไม่รู้ว่าจะเปิดมันไปทำไม หรือถึงเปิดเป็นก็ไม่รู้จะทำอะไรกับมันดี
18.เวลาทะเลาะกัน เธอจะบอกว่าไม่ต้องโทรมาอีกแล้ว แต่หลังจากวางหู เธอจะหันไปมองโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ พอกลับมาดีกัน เธอจะต่อว่า ว่าตอนนั้นทำไมไม่โทรมา(อ้าว)
19.ผู้หญิงสนใจเรื่องราวของเพื่อนเรากับแฟน(ของเพื่อนเรา)มากกว่าตัวเรา(ที่เป็นเพื่อนมันจริงๆ)เสียอีก
20.ผู้หญิงกินข้าวเป็นมื้อจริงๆน้อย กินขนมระหว่างมื้อเยอะ
21.ผู้หญิงผมตรงอยากผมหยิก ผู้หญิงผมหยิกอยากผมตรง
22.กระเป๋าถือของผู้หญิง มีน้ำหนักมากกว่าสายตาประเมิน และข้างในบรรจุของไว้มากมาย แม้เธอจะไม่ใช้ทุกอย่างก็ตาม
23.เวลากลุ่มเพื่อนผู้หญิงนัดกัน มักจะเม้าท์เรื่องของแฟนอย่างสนุกสนาน ผู้ชายรู้ดีเลยแค่ขับรถไปส่งแล้วค่อยไปรับตอนจะกลับอีกครั้ง
24.ตุ๊กตาส่วนใหญ่ไม่มีปาก เพราะมีผลการวิจัยว่า การไม่มีปากทำให้ผู้หญิงรู้สึกเหมือนว่าตุ๊กตากำลังรับฟังและเข้าใจความรู้สึกของธอ ไม่ว่าเธอจะรู้สึก สุข เศร้า เหงา และรัก
25.ในที่ทำงาน มักจะมีเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่ไม่ค่อยถูกกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิงด้วยกัน อย่างน้อยก็คู่หนึ่งละ
26.เวลาผู้หญิงนินทากันเอง แม้ผู้ชายจะทำหน้าเฉยๆ แต่ก็อยากรู้อยู่เหมือนกัน
27.ผู้หญิง ทุกคนต้องมีตู้เสื้อผ้าสองตู้ขึ้นไป และเมื่อถึงสี่ตู้เมื่อไหร่จะเริ่มบริจาคเสื้อผ้าที่ไม่ใช้ให้คนอื่น และตอนที่เริ่มโละของจะมีประโยคประเภท "เสื้อตัวนี้ยังไม่ได้ใส่เลย!!!"
28.ผู้หญิงมีเคล็ดลับในการแสดงความเป็นเจ้าของ เช่นติดรูปถ่ายคู่ไว้ในกระเป๋าตังค์ของเขา เอาตุ๊กตาไว้หน้ารถเขา วางตุ้มหูระยิบระยับไว้ที่ห้องรับแขกในบ้านเขา ถือเป็นสิ่งเล็กน้อยที่แฝงไปด้วยเทคนิคล้ำเลิศ
29.เริ่มต้นวันใหม่ด้วยประโยค "วันนี้คุณสวยจัง" จะทำให้เธออารมณ์ดีไปทั้งวัน
30.ดู เหมือนว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบชอปปิ้ง ฝันอยากขึ้นปกแมกกาซีนและอยากรักกับพระเอกฮอลลีวู้ด แต่ความจริงคงยากที่ชีวิตจริงจะเป็นอย่างนั้น ผู้หญิงทุกคนจึงมีอีกความฝันเล็กๆ อีกอันซ่อนอยู่ นั่นก็คือ การได้ ทำกับข้าวเย็นให้แฟน นั่งดูทีวีด้วยกันตอนค่ำ นอนกอดกันตอนกลางคืน ตื่นมาจัดที่นอนและตื่นขึ้นมาเตรียมข้าวเช้าให้ และอยากให้เขาบอกว่า "ผมรักคุณ" และหอมแก้มหนึ่งทีก่อนไปทำงาน (คุณว่าจริงมั้ย)?

ชัยชนะใดๆ ในโลกนี้ ไม่ยิ่งใหญ่เท่า.....ชนะใจของเราเอง


CLICK HERE

SCG

หลักของพุทธศาสนาสอนได้แง่คิด เจง เจง เห็นเข้าไปทุกมุมเลย

หลักของพุทธศาสนาสอนได้แง่คิด เจง เจง เห็นเข้าไปทุกมุมเลย

http://i304.photobucket.com/albums/nn195/jaobao/0999.jpg

ท่าน อานันทไมตรี พระมหาเถระผู้เป็นนักปราชญ์ของศรีลังการูปหนึ่งได้เขียนนิทาน "พุทธปรัชญา" เอาไว้ในชื่อว่า "หากพระพุทธเจ้าเสด็จกลับมาในวันนี้ จะเกิดอะไรขึ้น" สาระสำคัญมีอยู่ว่า

ณ ประเทศศรีลังกา วันหนึ่งมีสมณะรูปหนึ่งเดินไปตามท้องถนนด้วยบุคลิกภาพแสนธรรมดา ไม่มีท่วงทีกิริยาใดน่าสนใจเป็นพิเศษ เมื่อท่านเดินทางไปถึงวัดแห่งหนึ่ง ทายกทายิกาและพระภิกษุในวัดนั้นกำลังตั้งวงถกกันด้วยเรื่องการเมือง ทันทีที่พวกเขาเห็นสมณะรูปนั้นก็ถามกันอื้ออึงขึ้นมาว่า

"ท่านสังกัดพรรคการเมืองใด"

พระพุทธองค์ตรัสว่า "เรามิได้สังกัดพรรคการเมือง"

ทา ยกทายิกาและพระภิกษุกลุ่มนั้นมองดูพระองค์จากหัวจรดเท้าด้วยสายตาปนสังเวช ที่สมณะรูปนั้น "ช่างเป็นคนไม่มีสังกัด" เอาเสียเลย แล้วพวกเขาก็เอ่ยขึ้นมา

"ถ้าเช่นนั้นก็เชิญไปพักที่วัดอื่นก็แล้วกัน ที่วัดนี้ไม่ต้อนรับคนที่ไม่มีสังกัดดอก"

พระ พุทธองค์ทรงพระดำเนินต่อไป และต้องพบกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อมาพระพุทธองค์ทรงพบกับ อุบาสกชาวบ้านธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นพระบุคลิกภาพอันสงบงามของพระองค์แล้วเกิดศรัทธา จึงเข้าไปชวนพูดคุย เมื่อทราบว่า พระพุทธองค์ไม่ได้รับการต้อนรับจากใครเลย เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า

"ผมสงสัยจังเลยว่า พระอย่างพระคุณท่านไม่น่าจะเป็นพระของยุคนี้ (ซึ่งต้องมีสังกัดและมีพรรคการเมืองที่ชมชอบ) ถ้าเช่นนั้นท่านคงจะเป็นพระในแบบโบราณ เอ่อ -- ขอโทษนะครับ ท่านอายุเท่าไหร่ครับ"

พระพุทธองค์ทรงตอบด้วยน้ำเสียงปกติว่า

"หากนับจากวันเกิดจนมาถึงวันนี้ เราก็คงมีอายประมาณ 2,500 ปีเศษแล้วละ"

พลันที่ได้ยินคำตอบ อุบาสกคนนั้นรู้ขึ้นมาทันทีว่า พระองค์ต้องเป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน เขาเอ่ยขึ้นว่า

"โอ้ - - ดูเอาเถิด แม้พระองค์จะทรงเป็นถึงพระพุทธเจ้า แต่เมื่อพระองค์เสด็จมาจริง ๆ แล้ว กลับไม่มีใครสนใจพระองค์เลย..."



นิทานพุทธปรัชญาของท่านอานันทไมตรีจบลงเพียงแค่นี้ พร้อมกับที่ท่านสรุปว่า

"นี่คือสภาพการณ์ของพระพุทธศาสนาศรีลังกาในปัจจุบัน"

ใน ทัศนะของผู้เขียน สภาพการณ์ของพระพุทธศาสนาศรีลังกาในยุคนั้น ซึ่งทั้งพระสงฆ์และคฤหัสถ์หมกหมุ่นเรื่องการเมืองกันมาก (จนทำให้พระสงฆ์ศรีลังกาลงเล่นการเมืองได้ เป็น ส.ส.ในสภาได้ และเคยพกอาวุธไปยิงนักการเมืองเสียชีวิตมาแล้ว) ทัศนคติเช่นนี้ ทำให้ประชาชนหลงลืมแก่นแท้แห่ง "ความเป็นมนุษย์" ไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาลืมสัจธรรมพื้นฐานไปว่า



"แท้จริงแล้ว เราทุกคนล้วนเป็น มนุษยชาติ เราคือคน ชาติเดียวกัน ทั้งหมด ที่ต่างรักตัวกลัวตาย เสียดายชีวิต เช่นเดียวกันทุกรูปทุกนาม แต่เพื่อ "พรรค" และ "นักการเมือง" ที่พวกเขาเพิ่งสร้างขึ้นมา ทำให้พวกเขาหลงลืมสัจธรรมพื้นฐานที่ว่า "อุดมการณ์เป็นสิ่งสมมติ แต่ชีวิตมนุษย์เป็นของจริง" กันไปเสียหมด และด้วยความยึดติดถือมั่นในอุดมการณ์ ซึ่งเป็นเพียงอุปาทานหมู่ จึงทำให้พวกเขาประเมินคุณค่าของมนุษย์จากสิ่งที่เราแต่ละคน "สังกัด" มากกว่าจะประเมินจากความเป็นมนุษย์จริง ๆ ด้วยการหลงเทิดทูนในสิ่งสมมติเช่นนี้เอง ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองในศรีลังกาอย่างยืดเยื้อยาวนาน คนในชาติเดียวกัน (ทมิฬและสิงหล) ต้องลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันเองไม่จบสิ้น ทั้ง ๆ ที่พวกเขาได้ผ่านยุคสงครามล่าอาณานิคมอันเจ็บปวดมาแล้ว แต่ทุกวันนี้ พวกเขากลับสร้างสงครามระหว่างคนศรีลังกาด้วยกันเองขึ้นมาใหม่ แล้วด้วยสงครามที่ต้องการ "ปกป้อง" อุดมการณ์ของแต่ละคนนั่นเอง ประชาชนผู้บริสุทธิ์ชาวศรีลังกาจึงต้องมาสังเวยชีวิตด้วยระเบิด ลูกปืน แทบทุกวัน"

จากศรีลังกา ย้อนกลับมามองสังคมไทย ทำให้ได้บทสรุปว่ามีสภาพไม่แตกต่างกันเลย คนไทยในเวลานี้ทั้งพระและทั้งโยมกำลังพากันเทิดทูนสิ่งสมมติซึ่งเพิ่งสร้าง กันขึ้นมาไม่กี่ปีอย่าง "พรรค" และ "นักการเมือง" รวมทั้งสีเสื้อทั้งสี "แดง" และสี "เหลือง" ซึ่งเพิ่งอุปโลกน์กันขึ้นมาเมื่อวานนี้ด้วยซ้ำ


ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนไทยด้วยกันมาหลายร้อยปี เรามีความเป็นพี่น้องกันมาอย่างเหนียวแน่น เราเคยได้ชื่อว่าเป็นสยามเมืองยิ้ม เพราะมองไปทางไหน เราคนไทยต่างก็รู้สึกว่าเป็นญาติกันทั้งสิ้น ยิ่งในหลวงของเรานั้น เรายิ่งรักเทิดทูนพระองค์ท่าน เราเคารพรักพระองค์ดังหนึ่งพระองค์ท่านทรงเป็น "พ่อหลวง" ของคนทั้งแผ่นดิน เมื่อวันที่พ่อป่วย คนทั้งแผ่นดินดูเหมือนจะป่วยไปกับท่านเหมือนกันทั้งหมด แต่บัดนี้ เราคนไทยจำนวนมากกว่าครึ่งค่อนประเทศดูเหมือนว่ากำลังหลงลืมสัจธรรมพื้นฐาน เหล่านี้เสียหมดแล้ว เราหลงลืมไปแล้วว่า


เราเป็นมนุษยชาติก่อนเป็นคนไทย

เราเป็นคนไทยก่อนเป็นคนที่สังกัดพรรคและนักการเมือง

เราสวมเสื้อได้สารพัดสี ก่อนที่เราจะจำกัดตัวเองลงมาอย่างคับแคบเหลือเพียงสีแดงกับสีเหลือง

เราเคยเป็นพี่น้องร่วมชาติเดียวกันทั้งประเทศ เพราะเรามีพ่อหลวงคนเดียวกัน



แต่ น่าเสียดายเหลือเกินที่บัดนี้สัจธรรมพื้นฐานเหล่านี้กำลังถูกหลงลืม ถูกมองข้าม ความเป็นคนไทยธรรมดา ๆ กำลังกลายเป็นเรื่องไม่มีความหมาย เราต่างเป็นคนไทยที่มี "สังกัด" กันทั้งสิ้น เมื่อลืมสัจธรรมพื้นฐานอันทำให้เราเคยอยู่ร่วมกันมาอย่างสันติสุข เรากลับมายกย่อง"สิ่งสมมติ" ที่เพิ่งสร้างใหม่เมื่อไม่นานอย่าง "พรรค" และ "นักการเมือง" รวมทั้ง "เสื้อเหลืองเสื้อแดง" ว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ถึงขนาดที่ต้องปกป้องกันด้วย "เลือดเนื้อและชีวิต"


ไม่น่าเชื่อว่า อุดมการณ์ซึ่งเป็นเพียงสิ่งสมมติจะมีค่ายิ่งกว่าชีวิตมนุษย์ซึ่งเป็นของจริง อุดมการณ์นั้นจับต้องไม่ได้ เป็นเพียงสภาพนามธรรมในจิตใจ แต่คนเป็น ๆ ที่ต้องมาตายเพื่อสังเวยอุดมการณ์นั้นเป็นคนจริง ๆ มีพ่อแม่พี่น้องจริง ๆ มีเลือดเนื้อและจิตวิญญาณจริง ๆ

"ในเวลานี้ ในเมืองไทยของเราเคยมีใครตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตคนจริง ๆ ซึ่งถูกระเบิดตายเป็นรายวันเพื่อสังเวยสิ่งสมมติที่ชื่ออุดมการณ์กันบ้าง"

ชัยชนะใดๆ ในโลกนี้ ไม่ยิ่งใหญ่เท่า.....ชนะใจของเราเอง

difficult….but not impossible

พระดีน่ากราบ เมืองอยุธยา

พุทธะบูชา มหาเตชะ วันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พระปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ต้องหาโอกาส ไปกราบท่านกันครับ...วันนี้ธรรมะสวัสดี มีเมล์บอกกล่าว เล่าผ่านกรุ๊ปธรรมะสวัสดี มาฝากกันครับ


http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=5449&st=0






ชีวประวัติ

หลวงพ่ออุดม อุตตมปัญโญ (พระครูวิชัยกิจจารักษ์) เจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม
ตำบลกะมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา




เด็กชายอุดม ลัดดา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2479 ปี ชวด ที่แพ ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคนโตของคุณพ่อบัว ลัดดา คุณแม่ชั้น ลัดดา มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน ตามลำดับดังนี้
คนแรก หลวงพ่ออุดม อุตตมปัญโญ (พระครูวิชัย กิจจารักษ์)

คนที่ 2 นางปราณี พงษ์สุวรรณ์
คนที่ 3 ว่าที่ร้อยตรีสุนทร ลัดดา
คนที่ 4 นางปรีดา เดียวตระกูลวัฒน์
คนที่ 5 นายวิชัย ลัดดา


เริ่มการศึกษา


เมื่อ อายุเข้าสู่วัยเรียน ได้ศึกษาเล่าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัติพระญาติการาม จากนั้นติดตามคุณพ่อ คุณแม่ไปอยู่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่วัดอุโลม มีพระอาจารย์เยื้อนเป็นครูใหญ่
จาก นั้นติดตามคุณพ่อ คุณแม่มาอยู่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลับมาเรียนที่โรงเรียนพระญาติการามอีก มีครูเทียม ประเสริฐ เป็นครูใหญ่ จนจบชั้นประถมปีที่ 4 เข้าเรียนต่อมัธยมศึกษาชั้นปีที1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนสุนทรวิทยา มีครูสุทัศน์ (เสมอใจ) สัมผวผล เป็นครูใหญ่
เมื่อ จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไปสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนท่าไม้ท่าวาสุกรี (วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบัน) เรียนอยู่ได้ประมาณ5 เดือนเกิดเจ็บป่วยรักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น จึงขอลาพักการเรียน 7 วันแล้วจะกลับมาเรียนใหม่


เข้าสู่ร่มกาสวพัสตร์


หลัง จากลารักษาสุขภาพ อายุครบ 15 ปี คุณแม่ไปบนหลวงพ่อโต (พระพุทธไตรรัตนนายก วัดพนัญเชิง) ว่าถ้าหายป่วยอาการที่ไม่ทราบสาเหตุจะบวชเณรถวาย 7 วัน หลังจากนั้นก็หายป่วยเด็ดขาด
คุณแม่จึงนำเด็กชายอุดม ลัดดา เข้าบรรพชาเป็นสามเณรกับท่านพระครูศีลกิตตคุณ (หลวงพ่ออั้น) วัดพระญาติการาม เมื่อ วันที่ 6 สิงหาคม2494 เมื่อบรรพชาแล้วโยมแม่จึงนำสามเณรอุดมมาฝากให้อยู่กับพระอาจารย์ต่วน วัดกล้วย อำเภอพระนครศรีอยุธยา
เมื่อบรรพชาครบ 7 วัน สามเณรอุดม มีความมุ่งมั่น มีจิตศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา ไม่คิดกลับไปเรียนด้านวิชาสามัญ โยมแม่จึงตัดสินใจให้ลาออกจากโรงเรียนช่างไม้ท่าวาสุกรี สามเณรอุดม จึงหันมาเอาดีด้านธรรมะ โดยได้ศึกษาหาความรู้ ศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจบำเพ็ญบุญกุศล ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ภาวนา อยู่เป็นนิจ


การศึกษาทางธรรม


พ.ศ. 2494 (อายุ 15 ปี)
เรียนกัมมัฏฐาน กับท่านอาจารย์จาบ สุวรรณ สำนักเรียนกัมมัฏฐาน วัดประดู่ทรงธรรม (ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาแท้ๆ ของสามเณรอุดม ลัดดา)
พ.ศ. 2495 (อายุ 16 ปี)
เรียนนักธรรมตรี ที่สำนักเรียนวัดสุวรรณดาราราม สอบได้นักธรรมตรี ในสนามหลวง
พ.ศ.2496 (อายุ 17 ปี)
เรียนนักธรรมโท ที่สำนักเรียนวัดสุวรรณดาราราม สอบได้นักธรรมโท ในสนามหลวง
พ.ศ. 2499 (อายุ 20 ปี)
เรียนนักธรรมชั้นเอก ที่สำนักเรียนวัดสุวรรณดาราราม สอบได้นักธรรมชั้นเอก ในสนามหลวง
เมื่ออายุครบ 20 ปี บริบูรณ์
สามเณรอุดม ลัดดา ด้วยจิตที่แน่วแน่มั่นคง ตัดสินใจสละความสุข ความสนุกสนาน บอกโยมพ่อ โยมแม่ ขออุปสมบทตามรอยพระพุทธองค์ โดยมี
หลวงพ่อพระครูศีลกิตติคุณ (หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการทองคำ ปิยกโร วัดพิชัยสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์เฉลิม เขมทัสสี วัดพระญาติการาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
เมื่อ วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2499 เวลา 16.05 น. ได้รับฉายา อุตตมปัญโญแปลว่าผู้อุดมไปด้วยสติปัญญา จำพรรษาวัดกล้วย ตำบลกระมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ครั้นถึงปลายปี พ.ศ. 2502 คณะกรรมการวัดพิชัยสงคราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กราบอาราธนานิมนต์จำพรรษา วัดพิชัยสงคราม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2502 โดยได้รับความเมตตาจากพระอธิการทองคำ ปิยกโร เจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม
จน ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 พระอธิการทองคำ ปิยกโร ได้ลาสิกขาบท คณะกรรมการวัดพิชัยสงครามจึงมีมติให้พระอุดม อุตตมปัญโญ รับหน้าที่ปกครองสงฆ์ วัดพิชัยสงคราม ต่อมาภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดพิชัยสงคราม สืบมาจนถึงปัจจุบัน


ด้านการปกครอง


15 กรกฎาคม พ.ศ.2509

- รักษาการแทนเจ้าอาวาส วัดพิชัยสงคราม
24 กันยายน พ.ศ. 2511

- ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดพิชัยสงคราม ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญบัตรชั้นโท ได้รับพระราชทินนาม พระครูวิชัยกิจจารักษ์


ด้านการศึกษา


พ.ศ. 2509 -2550

- เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและคุมสอบธรรมศึกษา
- สอนธรรมนวกภูมิ คุมสอบและตรวจข้อสอบธรรมนวกภูมิ
พ.ศ. 2538 – ปัจจุบัน

- ตั้งทุนและสนับสนุนพระภิกษุ-สามเณร ในการศึกษาธรรมนอกภูมิและธรรมศึกษาตลอดมา
พ.ศ. 2548 – ปัจจุบัน

- สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม เปิดสอนนักธรรมชั้นตรี และนักธรรมชั้นโท


ด้านงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา


พ.ศ. 2534 – ปัจจุบัน

- ตั้งหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล และเป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล
- ให้ความรู้ ให้ธรรมะแก่เยาวชน ประชาชนทุกวันธรรมสาวนะ วันพระ และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
- ให้คำปรึกษาเยาวชน ประชาชนทั่วไป


ด้านสาธารณูปการ


พ.ศ. 2510

- เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรอบอุโบสถ
- สร้างใบเสมารอบอุโบสถ
- ทาสีอุโบสถ ติดดาวฝ้าเพดาน
พ.ศ. 2511

- ถมดินทำถนนเข้าวัด
- ถมดินหลังศาลาการเปรียญ
พ.ศ. 2512

- ปลูกกุฏิใหม่ 1 หลัง 4 ห้อง
พ.ศ. 2513

- สร้างฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ)
พ.ศ. 2514

- เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรอบฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ)
- สร้างสุขา 8 ห้อง (ข้างหอระฆัง)
พ.ศ. 2515

- สร้างกุฏิใหม่ 1 หลัง 4 ห้อง
พ.ศ. 2516

- สร้างกุฏิใหม่ 1 หลัง
พ.ศ. 2517 – 2518

- สร้างศาลาเอนกประสงค์ 1 หลัง
พ.ศ. 2519 – 2521

- สร้างกุฏิ 2 หลัง พร้อมบูรณปฏิสังขรณ์กุฏิเก่า
- สร้างศาลาสวดหน้าไฟ 1 หลัง
พ.ศ. 2522

- สร้างกุฏิ 2 ชั้น 1 หลัง (กุฏิเจ้าอาวาส)
พ.ศ. 2524

- สร้างหอสมุด 1 หลัง
- เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก เชื่อมต่อหมู่กุฏิ กุฏิเจ้าอาวาส หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ
พ.ศ. 2526

- สร้างหอสวดมนต์ 1 หลัง
- สร้างหอพระ 1 หลัง
พ.ศ. 2528

- ปูกระเบื้องหน้าฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ)
พ.ศ. 2529

- สร้างหอฉันและห้องรับแขก
พ.ศ. 2530

- ปรับปรุงทัศนียภาพรอบๆวัด
พ.ศ. 2531

- สร้างเขื่อนคอนกรีตยาว 120 เมตร
พ.ศ. 2532

- ทำแนวรั้วบนสันเขื่อนรูปใบเสมา ยาว 120 เมตร
พ.ศ. 2533

- สร้างศาลาการเปรียญคอนกรีตเสริมเหล็กคู่กับศาลาการเปรียญหลังเดิม
พ.ศ. 2534

-บูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญหลังเดิม
พ.ศ. 2535

- ปรับปรุงกุฏิทุกกุฏิ (ปูกระเบื้องหน้ากุฏิทุกกุฏิ)
พ.ศ. 2536

- ปูกระเบื้องระเบียง กุฏิเจ้าอาวาส หอสวดมนต์
พ.ศ. 2537

- เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กลานวัด
พ.ศ. 2539

- สร้างตำหนักสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และจัดภูมิทัศน์รอบๆตำหนัก
พ.ศ. 2540

- ปรับปรุงทัศนียภาพรอบๆวัด
พ.ศ.2545

- ปูกระเบื้องรอบอุโบสถ
พ.ศ. 2546

- สร้างศาลารอยพระพุทธบาทจำลอง พระประจำวัน
พ.ศ.2547

- แกะสลักบานประตู หน้าต่าง ลงลายทอง อุโบสถ
พ.ศ. 2548

- กรุผนังอุโบสถใต้บานหน้าต่างด้วยไม้แดงรางลิ้น ใส่ลายเฟื้อง
พ.ศ. 2549

- สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม 2 ชั้น 1 หลัง
- สร้างห้องสุขา ชาย-หญิง รวม 10 ห้อง
พ.ศ. 2550

- เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ด้านหน้าผจญมาญ ด้านหลังไตรภูมิ ด้านข้างเทพชุมนุมพร้อมพัดยศ ผนังอุโบสถเขียนภาพพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งแต่พระราช สมภพจนถึงขั้นขึ้นครองราชย์สมบัติ รวม 10 ภาพ
พ.ศ. 2551

- สร้างศาลาเกียรติคุณ 1 หลัง
พ.ศ. 2552

- สร้างศาลาอเนกประสงค์ 1 หลัง
- ทำรั้วคอนกรีต ซุ้มพระรอบอุโบสถ 5 ชั้น
- ทาสีซุ้มพระ 9 ชั้น
- ทำฟุตบาททางเท้าหลัง สันเขื่อน ยาว 120 เมตร

ธรรมะจากตะกรุดสาลิกา และการใช้ปริศนาธรรมเพื่อเจริญพระกรรมฐาน

(ทวนปริศนาธรรม สาลิกาอยู่เป็นคู่ ตัวหนึ่งอยู่ ตัวหนึ่งไป ? ถูกไหมครับ)
อ่า นั่นแหละ ตัวหนึ่งอยู่ ตัวหนึ่งไป ลมพุทธ หายใจเข้า โธลมออก
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ภาวนาพุทธ หายใขเข้า โธออก
พุทโธ พุทโธนี้ถ้าหากเป็นวิปัสสนาญาณหมายถึงว่า ภาวนาจนกระทั่งจิตรวมนิ่งแล้ว
มัน จะเกิดนิมิต เรียกว่าอุคหนิมิต จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ เกิดขึ้น ในเมื่อเกิดขึ้นให้กำหนดว่า นี้เกิดแล้ว นี่เกิดเสร็จเรียบร้อย ไอ้ที่เกิดขึ้นนี้แหละ มันจะหายไป จะเคลื่อนหายไป แล้วกำหนดว่านี้ดับ เกิดดับ เกิดดับ นี้เข้าสู่วิปัสสนา
(นี่ก็ย้อนเข้าสู่ร่างกายเรา) เหมือนกัน เปรียบเหมือนกัน
(หลวงพ่อทำกี่ปีจึงมั่นใจ) โอ้ หลายปีคุณหมอ
(มั่นใจอย่างไร) เราก็เชื่อแน่ว่า เอ่อ เราก็เป็นอย่างนี้
(ถึง10 ปีไหม) กว่า อาตมาเรียนมาตั้งแต่สมัยอยู่เป็นเณร กรรมฐานนี้นะ เรียนกับตา (อาจารย์จาบ)
ไม่ได้เรียน(กับหลวงพ่อต่วน)
(อาจารย์จาบสอนเรื่องพระเครื่อง-วัตถุมงคล ?) ไม่ได้สอน สอนกรรมฐานอย่างเดียว ได้เรียนกรรมฐานอย่างเดียว
(กับวิชารักษาโรคกระดูกหัก) อ่านั่นแหละ
(อาจารย์จาบ รักษากระดูกหัก ประสานทันทีไหม) อ่า ทันทีเลย


บทส่งท้าย ที่หลวงพ่อฝากถึงพวกเรา


ข้อ สำคัญ หนึ่ง ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติ ขอให้ตั้งในศีลในธรรม ตั้งอกตั้งใจปฏิบัตินะ หนึ่งมีศีล สองมีสมาธิ สามปัญญาเกิด ก่อนอื่นรักษาศีลก่อน
(วันละชั่วโมงได้ไหม ?) ก็ได้ หนึ่งศีล เมื่อมีศีลแล้ว สมาธิเกิด พอสมาธิเกิด ปัญญาเกิด ตามขั้นตอน
(ข้อแนะนำในทางโลก) ในทางโลก อย่างน้อยมีศีลไว้
(ถ้ามีวัตถุมงคลหลวงพ่อ ปลุกด้วยอะไรดี ?) มันดีเหมือนกันคุณหมอ ให้ระลึกนึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้
(ถ้าท่องยาก พุทโธคำเดียวได้ไหม ?) ได้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ แค่นี้
(แม้แต่มหาระงับยากๆ พุทโธคำเดียว ?) ได้ แล้วเราก็ตั้งจิตอธิษฐาน

การขึ้นพระกรรมฐาน

ถวายดอกไม้ธูปเทียนกับหลวงพ่อ แล้วหลวงพ่อแนะนำดังนี้

วิธีการเจริญพระกรรมฐาน

ก่อน อื่นหลังจากเราทำวัตรสวดมนต์เรียบร้อยแล้วนะ ก็เริ่มนั่งพระกรรมฐาน เอามือขวาทับมือซ้ายเท้าขวาทับเท้าซ้าย ตั้งตัวให้ตรง เสร็จเรียบร้อยแล้ว อาราธนาองค์แห่งพระกรรมฐานคือ
อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาปิติเจ้าทั้ง 5 คือขุทกาปิติ ขณิกาปิติ โอกันติกาปิติ ผรณาปิติ อุเพงคาปิติ จงมาบังเกิดในกายทวาร มโนทวาร แห่งข้าพจ้าผู้เข้านั่งพระกรรมฐานในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จงมาบังเกิดในกายทวาร จักขุทวาร มโนทวาร แห่งข้าพเจ้าผู้เข้านั่งพระกรรมฐานในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า คุณศีล คุณทาน คุณกาลภาวนา ที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมอบรมมา หมื่นชาติ แสนชาติ และในปัจจุบันชาตินี้ก็ดี ขอให้ข้าพเจ้าได้สำเร็จมรรคผลในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

จะใช้พุทธหายใจเข้า โธออก พุทโธ หรือจะใช้สัมมาอรหังก็ได้ ได้ทั้ง 2 อย่าง
(กำหนดใจที่ไหน) อยู่ปลายจมูก พุทโธ พุทโธ พุทโธ
(มาพบหลวงพ่อไม่ได้ สมาทานกับพระพุทธรูปได้ไหม ?) ได้
ภาวนาพุทโธ พุทโธ หรือจะใช้สัมมาอรหังก็ได้ แล้วแต่เราจะคัดสรรเอา
นี้ถ้าหากว่าจิตมันยังแกว่ง ยังไม่สงบ ให้เพ่งพระพุทธรูปเป็นอารมณ์
ให้ลืมตาเพ่งพระพุทธรูป แล้วก็หลับตาภาวนา จนกระทั่งพระพุทธรูปปรากฏในตาใน จิตจะได้เป็นสมาธิ

ท่านที่ต้องการ file เสียงของหลวงพ่อ mp3 การเจริญพระกรรมฐาน และ ความรู้ทั่วไปและกรรมฐานจากตะกรุดสาลิกา
ให้แจ้งความประสงค์ไปที่ benzizz_time@hotmail.com จะจัดส่งให้ทาง mail

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

SMS กวนๆ

SMS กวนๆ

SMS กวนๆ

- เราเป็นเพื่อนกันผูกพันไมตรี รักกันดั่งขี้ที่มีแมลงวันตอม

- ห้ามไม่ไหวก็ใจมันคิดถึงไม่ต้องยิ้ม ไม่ใช่มรึงกรูคิดถึงแฟนกรู

- คิดถึงจัง...ไม่ได้เจอกันตั้ง6เดือน เดี๋ยวจะไปหานะจาก...ดวงเฉลิม

- ควายน้อยๆ จงตั้งใจเรียนมากๆ โตมาจะได้ไปเป็นควายใหญ่ที่มีคุณภาพ

- ดังนิดดังหน่อย.........สั่นนิดสั่นหน่อย.....ทำเป็นหยิบขึ้นมาดู นึกว่ากิ๊กเหรอจ๊ะ

- โอ้โฮกระไรเลยบ่มิเคยจะพบพานพอเห็นก็ซาบซ่านหน้านงคราญด้านจริงๆ

-sex on sale... sexsหมู่กด1 ประตูหลังกด2 วิตถารกด3 ทั้งหมดกด01-xxxxxxx

-เหอๆๆมีไรจะบอกกดลงสิกดอีกเด่ะอีกๆหลอกง่ายจังคนแก่เนี่ย

- อแฟนัง ติตัว ปรมาลาภา ความไม่มีแฟนติดตัวเป็นลาภอันประเสริฐ

- เด็กคิดถึงคุณ เพื่อนคิดถึงคุณ ดอกไม้คิดถึงคุณ กลับสวนสัตว์ด่วน รออยู่

- ข้อความกระพริบเป็นจังหวะหัวใจ บอกคนไกลว่าคิดถึง

- ส่งมาเล่นๆ ส่งมากวนๆ ใครจะทำไม เสียตังค์ แล้วสบายใจตามนิสัยคนมีเงิน

- Did I miss someting check it a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t v w
x y z Opps... I miss \"U\" !!!

- ฝันดี 2 คำนี้ที่มีให้ 2 คำนี้เปี่ยมด้วยความจริงใจ อยากให้เธอคนไกล Sweet dream

- คิดถึงนะ (อย่าแอบยิ้ม) คิดถึง จริงๆ นะ (ยิ้มอีกแล้ว)

- และแล้ว......ยายแก่ก็หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน 555

- มีพรมาฝาก ขอให้รวย มีคนรุมจีบมากมาย โอมเพี้ยง!! พรเสื่อมเมื่ออ่านจบ

- อย่าเพิ่งนอน ลุกขึ้นมาก่อน จะบอกว่า \"ฝันดีนะจ๊ะ\" o.k. ไปนอนได้

- มองรถคิดถึงถนน มองเมฆฝนคิดถึงฟ้า มองกาแฟคิดถึงน้ำชา มองปลาร้าคิดถึงเธอ

- อากาศร้อน ดูแลสุขภาพด้วยสัญญาว่า ถ้าว่างเมื่อไหร่ จะพาไปฉีดยา

-ถ้ามีอะไรทำ ก้อคงไม่นั่งส่งmsgหาคนหน้าตาไม่ดีหรอก :p

-รักเธอทุกลมหายใจ รักมากกว่านี้ไม่ไหว หายใจไม่ทัน

-ใครอ่าน... ขอให้น่ารัก!!! เฮ้ย!ทำไมไม่ศักดิ์สิทธิ์เลยวะ

-เธอควรจะซาบ ซึ้งนะที่คนสวยๆ อย่างชั้นยอมสละ เวลาอันมีค่าส่ง ข้อความให้เธอ
-หัวขโยกโขกกำแพงมีดแทงปอด ฟาดด้วยน็อตตีด้วยชามตามด้วยไห จิ้มด้วยมีดยิงด้วยปืนลนด้วยไฟ ทำยังไงก็ไม่หายคิดถึงเธอ

-ถ้าบอกว่าคิดถึงก็ไม่ได้ครึ่ง ที่รู้สึกเก็บไว้ในใจลึก ลึกให้เธอรู้สึกด้วยใจ

-ดึกแล้วนะ.. คนดี นอนเสียที่ จะได้หลับฝัน ให้ฝันถึง1คืน จะทำอะไรในฝันก็เชิญ
- ลบข้อความหรือไม่ ?แนะ ยังจะลบอีกเดี๋ยวเขกกบาลให้คิดถึงรู้หรือป่าว
-ขอให้ฝันร้าย ควายไล่ขวิดตูดเป็นหิด ถ้าลืมคิดถึงกัน

-ความรักเหมือนขี้ลอยน้ำปลาไม่ตอดขี้ไม่แตกเราไม่แยกจากกัน

-สาธุ..ขอให้คนอ่านอ้วนโอ้ว..ศักดิสิทธิ์จริง ๆ

-รักรัรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักรักแร้เหม็นจัง

-I have problem and want to talk to you.but my mobile lowbattery plese
call me back 02252333แล้วพอโทร.ไปก็เป็นเบอร์ รพ. ศรีธัญญาอ้ะ

-อยากพบ อยากเจอหน้าอยากเข้าไปกระซิบใกล้ๆๆว่า..มีตังค์ให้ยืมปะ หมดตัวแล้ว

-วันนี้อากาศร้อนเป็นบ้า ถ้าได้ดูเธอแก้ผ้า ฉันคงหายซ่าไป เยอะเยย.....

-เหตุด่วน! เหตุร้าย! มีคนใกล้ตายเพราะคิดถึง เหลือลมหายใจอยู่นิดนึง ก่อนจะตายจะได้รำพึงคิดถึง เธอ

-บอกรักผ่านลมฟ้า ให้สัญญาณนำมาที่นี่ เพียงอยากบอกกับคนดี อยู่ไกลอย่างนี้..ก็ยังรักเธอ

-หากเพียงรู้ว่าคุณรัก หากแสนไกลไม่เคยหวั่น หากเพียงเรายังคิดถึงกัน ถึงวันหนึ่งเราจะไปหาเธอ

-ตอนนี้กลางคืนหรือกลางวัน ช่วยบอกฉัน..หน่อยได้ไหม อะไรทำให้ตาฉันมืดไป อาจเพราะรักเธอมาก ไป..ใช่มั้ยเธอ

.-แม้ยามกลางวัน ก็มืดมิดเหมือนค่ำคืนหรือเป็นเพราะความรักที่มีให้เธอมันมาก เกินที่เราจะมองเห็นสิ่ง อื่นได้

-ผู้ชายหลายใจ เหมือนผ้าอนามัย หลายยี่ห้อ ผู้ชายไม่ใช่พ่อ จะไปง้อมันทำไม

-คิดถึงจริง คิดถึงจัง คิดถึงเท่ากะละมังเท่าฝาไห คิดถึงเท่าบ้านเท่าบันไดคิดถึงใครไม่บอกปล่อยให้ งง

-++คิดไว้รึยัง \"พืชมงคล\" ปีนี้จะกินอะไร...
-ถ้าเจ้าของเครื่องยังมีชีวิตอยู่กรุณาโทรกลับด้วย

-มีคัยบอกว่าคุณน่ารักมั๊ยนั้นแหละเค้าโกหกคุณ

-เค้าว่ากันว่า.. ใครได้รับ message นี้ไม่รีบตอบกลับแฟนจะมีชู้..

-เชื่อหรือไม่!!! ปัจจุบันควายไม่ไถนา แต่เอาเวลามาอ่านsmsแทน

-รู้ไหมว่าคิดถึงและห่วงหารู้ไหมว่ารักตลอดเวลารู้ไหมว่าโกหกทั้งเพ 555

-เด็กดีไม่ดื้อ เด็กดื้อไม่ดี เด็กไม่ดีต้องถูกตี อยากเป็นเด็กดีต้องคิดถึงกัน

-เพียงข้อความสั้นๆ แต่จิงใจเตือนด้วยความห่วงใยอย่าลืมทานข้าวนะคนดี

-แมงมุม ขยุ้มหลังคา แมวกินปลาร้า แสดงว่าแมวลาว ...

-รู้ไหมวันนี้คุณลืมอะไรคิดซิคิดอีกก็ลืมตาไง ฮิฮิ

-ใครเอ่ยส่งมา หน้าตาน่ารัก คุ้น.ๆ.....ว่ารู้จัก เพื่อนรัก...ของเธอไง

-ฝากให้เธอได้อ่านก่อนเข้านอน ฝากอวยพรเจ้าของเครื่องหลับฝันดี
-แอบหวังเล็กๆในใจ ว่าสักวันเธอคงมีตังส์ให้ยืม

-คิดถึงจังตังส์หมดเลยอดโทร(น่าสงสารเนอะ)

-รักนะคิดถึงมากเป็นห่วงตลอดโธ่เว้ย!*ส่งผิดเบอร์อีกและ!

-ตำรวจกำลังจับคนที่น่ารักอยู่ เธอคงจะปลอดภัย แต่ว่าฉันจะไปซ่อนที่ไหนดี?

-ไม่ว่าเธอจะผิดแค่ไหน ฉันก้อยังอภัยเธอเสมอ ที่ปัญญาอ่อนและเซ่อกว่าทุกคน

- ใครลบข้อความนี้จะเป็นโสดตลอดชีวิตไม่เชื่ออย่าลบหลู่.....

-ตอนนี้อยู่โรงพัก มาประกันตัวหน่อยโดนจับข้อหาหน้าตาดี

-หลับหรือยังคนดีฝันถึงฉันคนนี้ไหมคิดถึงเธอสุดใจอยากไปอยู่ใกล้เธอ

- แม้ห่างไกลไม่พบเจอ ก็คิดถึงเสมอไม่เปลี่ยนแปลง..

- อย่าลืมสวดมนต์และห่มผ้าค่อยๆหลับตาจะมีเสียงกระซิบว่าฝันดี

- เก็บน้ำค้างมาเรียงร้อยจับหิ่งห้อยมาทาสีกระซิบบอกเธอคนดี..คิดถึง

-แม่งูเอ๋ยข้อความมาจากไหน มาจากหัวใจส่งไปก็ส่งมา

- คับAคับBคับcแล้วคนดีคับอะไรส่วนผมคับอกคับใจทำอะไรคิดถึงแต่เธอ

- ไม่มีเวลาโทรหาเธอทุกๆวัน แต่ยืนยันว่าคิดถึงเธอ100%! Miss u

คำพูดกวนๆ ชวนให้หลง

1.good night คนดี ขอให้นอนหลับฝันดี คืนนี้จะไปเข้าฝัน

2.พี่ไปส่งมั้ย น้องต้องเดินอีกไกลนะ กว่าจะพ้นใจพี่

3.เรื่องเนี้ยะ เริ่มต้นด้วยร้าย แต่ลงท้ายด้วยรักนะจ๊ะ

4.ไข่พะโล้หนะ สีดำ แต่คนทำอะ หัวใจสีชมพู

5.ติดกาแฟ เลิกได้ ติดบุหรี่ เลิกได้ แต่ติดใจเธอ เลิกไม่ได้จริงๆ

6.มีใจแค่1ดวง ครึ่งแรกบอกว่า คิดถึง อีกครึ่งหนึ่ง บอกว่า รัก

7.ที่หายหน้าไป ไม่ใช่ไม่รัก แต่หมอให้พัก ลดน้ำตาล ในหัวใจจ๊ะ

8.ฉันเกิดมา อาภัพ ต้องอยู่แบบ หลบๆซ่อนๆ ก็ซ่อนใน หัวใจเธองัย

9.หัวใจไม่ว่าง เหมือนเดิม เพราะมีเธอ มาเพิ่มเติม ในใจ

10.อยากรู้มั้ย ฉันรักใคร ส่องกระจกสิ จะได้คำตอบ

11.ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้โยนหัวก้อยกัน ถ้าออกหัว เธอมาเป็นแฟนฉัน ถ้าออกก้อย ฉันจะยอมเป็นแฟนเธอ

12.อยากจะเขียนคำว่ารักตัวเท่าบ้าน คงต้องหากระดานแผ่นใหญ่ๆ อันสมุดเล่มนี้มันเล็กไป คงต้องเอาหัวใจมาเขียนแทน

13.ไม่ได้คิดถึงเธอทุกนาที แต่คิดถึงเธอตลอดที่มีลมหายใจ

14.ถ้าพรุ่งนี้ผมตายไปก็คงไม่แปลก เพราะชีวิตผมที่เกิดมา มีหน้าที่เพียงแค่มาพบคุณในวันนี้เท่านั้นเอง

15.ผมมันคนใจแคบ ในนั้นเลยมีที่ว่างพอสำหรับคุณเพียงคนเดียว

16.ผมขอถามทางคุณหน่อยได้ไหมครับ? ทางไปหัวใจคุณนะ ไปทางไหนครับ

17.ผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจ ก็เพราะหัวใจของผมนั้นดันไปอยู่ที่คุณ

18.ความรักของเราเหมือนเส้นขนาน แม้จะไม่มีวันมาบรรจบกัน แต่ก็จะเคียงคู่กันตลอดไป

19.ถึงผมจะเป็นคนหลายใจ แต่ในทุก ๆ หัวใจก็มีแต่เธอ

20.โทรศัพท์มือถือยิ่งโทรยิ่งกินเงิน แต่โทรหาคุณยิ่งโทรยิ่งกินใจ

21.ช่วยกดลิฟท์ให้หน่อยครับ "ไปชั้นไหนค่ะ" ผมจะไปชั้น..รักเธอครับ

22.ผมชักอึกอัดแล้วสิ ก็คุณเล่นเข้ามาเบียดอยู่ในใจผมตลอดเวลาเลย

23.คุณทำให้ขาผมแพลง เพราะตกหลุมรักคุณไม่เป็นท่า

24.ไม่สบายไป x-ray หัวใจมา หมอบอกว่าข้างในหัวใจมีแต่เธอ

25.ร้อนจัง อาบน้ำ ก็ยังไม่หาย นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ก็ยังไม่หายคิดถึงเธอ

26.โทษครับ กี่โมงแล้วครับ วันเวลาของผม มันหยุดไปหมดเมื่อพบคุณ

27.คุณท่าทางจะมีโชคนะ ผมเป็นหมอดู ดูดวงจากเบอร์โทรศัพท์ บอกเบอร์มาสิครับ ผมจะทายให้

28.ผมคงต้องไปรับลอตเตอรี่มาขายซะแล้ว เพราะความรักของคุณมันทำให้ผมตาบอด

29.ถ้าเธอเป็นโคลน ฉันจะยอมเป็นควาย จะได้จมปลักรักเธอตลอดไป...

30.เวลาเห็นหน้าคุณทีไร ผมมักจะเป็นโรคชักทุกทีเลยอะ...ชักใจอ่อน


กวนตีนละ

ผู้หญิงเหมือนต้นไม้ ผู้ชายก็เหมือนคนสวน แต่ต้นไม้ช่างเย้ายวน คนสวนก็เลยฟัน


เมื่อเราไม่มีรักแท้ แล้วจะไปดูแลมันทำไม


กลม ๆ มีรูตรงกลาง..ไม่ใช่ห่วงยางแต่เป็นห่วงใย ห่วงยางม่ายรุของคราย..แต่ห่วงใยนี้เป็นของเทอ


โสดเสมอรอเทอสนอง...โสดลูก2รอน้องเสนอ


รถไฟยังมีจอด แต่หัวใจพี่รักตลอด ไม่มีจอดนะน้อง


อยากให้เธอปลอกหัวหอม จาได้มีน้ำตาให้เราบ้าง


ลงทุนคือหัวใจ กำไรคือความรัก ขาดทุนคืออกหัก นิยามรักของนักเรียน


ฟันแรกคือฟันน้ำนม ฟันที่สองคือฟันแท้ ฟันที่สามคือฟันเทอ รักเสมอถ้าเทอให้ฟัน


ไม่อยากเล่นของสูงเหมือน Big Ass ไม่อยากเป็นClash แค่ไออุ่นรัก ไม่อยากเป็น Socool แค่คนรู้จัก อยากเป็นคนที่ถูกรักอย่าง Bodyslam


ผู้ชายนั้น...รักจริงแต่เอาเล่น ๆ ...แต่ผู้หญิงรักเล่น ๆ... แต่เอา(เป็นสามี)จริง ๆ


ไม่อยากเล่นของสูงเหมือนบิ๊กแอส ขอเป็นแคลชเช็ดน้ำตาจะได้ไหม ไม่อยากเป็นกบในกะลาให้ปวดใจ แค่อยากรู้ว่าอยู่ตรงไหนของหัวใจเธอ


รักใครหลายคน ไม่ใช่เหตุผลของคนหลายใจ


ข้อความนี้ห้ามอ่านฟรี ส่งใจที่มีมาแลกด้วย


อ่านแล้วยิ้มหน่อย อ่านบ่อยยิ้มหวาน อ่านนานยิ้มนาน หลอกให้อ่าน โอ๊ย ! สะใจ


บ่าย 1 คิดถึงเธอ บ่าย 2 ละเมออยากเจอหน้า บ่าย 3 รักนะเด็กโง่ทุกเวลา บ่าย 4-5...ไปเล่นเกมส์


อย่าอ่านข้อความต่อจากนี้นะ เพราะใครอ่านเป็นหมา โถ่เตือนแล้วก็ไม่เชื่อ !!!


99% ที่อ่านข้อความนี้เป็นคนหน้าตาดี แน่นอนคุณคือ 1% ที่เหลือ

สุนทรภู่ครูกวีขี่Smash แบงค์วงแคลชขี่Mioเท่นักหนา เสก โลโซขี่Nouvoโอ้งามตา ฉันนี่หนาขี่รถถีบไปจีบเธอ


เมื่อคืนนางฟ้ามาเข้าฝัน ท่านถามฉันอยากได้อะไรไหม ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงที่จิงจัย บ้าหรือไงไปเลยไปกรูจานอน


เบื่อ!! เซง!! คนบ้าเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ยอมไปไหนกานเลยหรอวะ มานั่งออนเอ็มอยู่ได้ ทั้งวัน


ขอขอบคุณความรักที่เป็นแรงบันดาลใจ โดยการหักหลังผมมาตลอด


ใส้ดินสอหมดยังมีเปลี่ยนใส้...แต่รักเธอหมดใจจะเอาที่ไหนมาเปลี่ยนดี


...ถ้ า ฉั น ไ ม่ เ จ้ า ชู้...จ ะ รู้ ไ ด้ ไ ง ว่ า เ ธ อ หึ ง


ถ้าเมิงไม่ทัก กรูก้อไม่ทัก ถ้าเมิงจาทัก กรูก้อจาทัก ถ้าเมิงไม่ตาย กรูก็ไม่ตาย ถ้าเมิงจาตาย ก็เรื่องของเมิง


รักในวัยเรียน...เหมือนจุดเทียนกลางสายฝน!!เเต่ฉันไม่สน เพราะฉันกางร่มจุดเทียน.. . วี๊ด....วิ้ว


[The beginning of love] เก็บรักไว้เพียงคำว่าเพื่อน [The end of love]


ผู้หญิงคือต้นไม้ ผู้ชายคือคนสวน แต่ต้นไม้ช่างเย้ายวน คนสวนก้อเลยฟัน( แล้ว ) ทิ้ง


เมื่อเทอยังมีเค้าอยุ่เต็มหัวใจ เเล้วจาให้ช้านอยู่ส่วนไหนของเทอ


นี่เทอๆ อยู่ว่างๆมาคบกันมั๊ย !


ฉันคงไม่อาจรักเทอได้ เพราะทุกห้องหัวจัยมีคนจองเต็มไปหมดแร้ว


แม้โลกนี้จะไม่มีคัยเลยที่รักเทอ ช้านนะเออ จำไม่ขอรักเทออีกคน


ถึงแม้เทอไม่ได้เกิดมาสวยอย่างฉัน แต่เราก้อเป็นเพื่อนกันได้เสมอ


เสืออยู่ป่า ปลาไหลอยู่รู งูอยู่บนหัวเทอ


ฉันอาจหน้าตาดีเกินไป จนเทอน้อยอกน้อยใจในหน้าตาตัวเอง


ฉันผิดหรือที่น่ารัก จนเทอหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้น


อุปสรรคที่ขวางหน้า ขอให้ฟันฟ่าไปให้ได้ ถ้าเรื่องแค่นี้เทอท้อใจ อยู่ไปก้ออายหมามัน


รู้ดีว่าโดนหลอกแต่ไม่โกรธหรอก ชั้นก้อหลอกเทอเหมือนกัน


อยากดูแลเทอยามหมองเศร้า อยากชวนกินเหล้ายามเทอเสียใจ


ต่อให้ทุกคนในโลกนี้เดินจากเทอไป ชั้นจะยังยืนอยู่ตรงนี้ใกล้ๆ คอยยิ้มอย่างสะใจให้เทอ


เทออาจเป็นแค่คัยซักคนในโลกใบนี้ แต่สำหรับฉันโลกใบนี้ไม่น่ามีคนอย่างเทอเลยซักคน


เป็นนางฟ้าในจัยคัยฉันไม่ว่า เปนยัยบ้าในจัยคัยฉันไม่หวั่น จะติ๊งต๊องหรือเอ๋อไม่สำคัน ขอเพียงเทอเปนแฟนฉันเท่านั้นพอ


ได้เห้นเทอท้อแท้ แค่นี้ช้านก้อมีกำลังใจก้าวเดินต่อไปอย่างงดงาม


จงเปลี่นโอกาดให้เปนวิกิดแร้วชีวิตจะมีรสชาติ


ไม่ได้ตั้งใจจะมีชู้ แต่ความสวยที่มีอยู่มันบังคับ


รั ก จ ริ ง .......ทิ้ ง จ ริ ง....โ ว้ ย ย ย ย


อย่าหวังว่าคัยสักคนจะอยู่เพื่อเรา เพราะบางครั้งเราเองก็ยังไม่รุว่าจะอยุ่เพื่อคัย


พระอาทิตย์ไม่ลืมวัน พระจัทร์ไม่ลืมคืน ทะเลไม่ลืมคลื่น มีหรือจะลืมเธอ


~..คิดถึงแปลว่าคิดถึง เธอจะลึกซึ้งกับมันบ้างไหม ถ้าถามว่าคิดถึงใคร..ก็เธอไงที่ฉันคิดถึง...~

ไม่สบาย เป็นหวัด ปวดหัว มีไข้ ไม่มีแรง เจ็บคอ ก็ไม่หนัก เท่ารักเธอ


ใบไม้ยังเปลี่ยนสี นาทียังเปลี่ยนไป คนรักยังนอกใจ แล้วอะไรจะแน่นอน


ใน1ปี 1วันและ1หน มี1คน1ใจใน1รัก แต่1สิ่ง1อย่างที่รู้จัก คือ1รัก1ใจใน1คน


มีแฟนไว้หยิก มีกิ๊กไว้หยอก อยากหั้ยหยิกหรือหยอกก้อบอกกันได้
โหวดแล้วคุณจะไม่โสด
14 กุมภาพันธ์ จำจนวันตาย
  โหวตให้หน่อยนะครับ...จุ๊บๆ