เที่ยงวันนี้ก็ร้อนอีกเช่นเคย..
พระอาทิตย์ก็ยังขึ้นกลางหัวผมเสมอ..
ผมวุ่นอยู่กับการเรียนรอบเช้าที่แสนน่าเบื่อ
ซึ่งผมก็ได้แต่รอเวลาพักเที่ยงเพราะหิวมากแล้ว
ทุกๆ ครั้งที่ผมมานั่งอยู่โรงอาหาร
ผมและเพื่อนอีก 8 คนก็มักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเสมอๆ...
และมันก็พูดกันว่ามีเด็กนักเรียนเข้าใหม่
ซึ่งเธอน่ารักพอที่จะมีคนนับสิบมารุมตอมเธออยู่
เดินผ่านไปที่ไหนก็มักจะมีเสียงแซวตามมาตลอด
ผมเห็นหน้าเธอไม่ถนัดนัก แต่สายตาผมก็ดีพอที่จะดูออกว่าเธอน่ารัก...
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
แต่ดูจากท่าทางแล้วเธอน่าจะเป็นเด็กเรียบร้อย ซึ่งต่างกับผมพอควรเลย
วันเปิดภาคเรียนวันแรก ครั้งนั้นที่เธอเดินผ่าน...
ช่วงเวลานั้นผมถูกใจของตัวเองสั่งให้รักเธอตั้งแต่ตอนนั้น
ผมขอร้องให้เพื่อนขอเบอร์โทรฯให้ ในใจก็คิดว่าถ้าได้แล้วจะกล้าโทรไปเหรอวะ...
ซึ่งส่วนตัวแล้วผมเป็นคนขี้อายมากถึงมากที่สุด
ผมกดเบอร์ครั้งแล้วครั้งเล่าก็กดไม่ครบ 9 หลักสักที ผมทำใจครู่หนึ่ง
เอาวะเป็นไงเป็นกัน
“สวัสดีค่ะ”
“เอ่อ...สวัสดีครับขอสายแอนหน่อยครับ”
เสียงของผมในตอนนี้สั่นมากๆ สั่นจนขยับปากพูดแทบจะไม่ได้เลย
“พูดอยู่ค่ะ...นั่นใครเหรอ”
“เราชื่อมินนะ แอนว่างพอจะคุยด้วยมั้ย”
“วันนี้ไม่ว่างนะ เราจะไปงานวันเกิดแม่”
ผมหยุดคิดครู่หนึ่ง เธอคงไม่อยากคุยกับเรา แต่เสียงเธอน่ารักจริงๆ
“งั้นไม่เป็นไร...วันหลังเราโทรมาได้มั้ย”
“อืม....ได้...งั้น...แค่นี้นะ....สวัสดีค่ะ”
หลังจากวันนั้นผมก็เริ่มโทรไปหาเธอบ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าคนอื่นที่โทรมาจีบเธอ
เพื่อนในกลุ่มมักจะคอยสมน้ำหน้าผม
หน้าอย่างผมน่ะเหรอใครจะมาชอบ
ทุกครั้งที่โทรไปผมมักจะเป็นคนหาเรื่องพูด
ถ้าเรื่องคุยหมดเมื่อไหร่นั่นหมายถึงการวางโทรศัพท์
เธอและผมมีอะไรที่คล้ายกันบ้างจึงพอคุยกันได้
ผมคิดตลอดว่าเราคงเป็นได้แค่เพื่อน
เพราะเธอเพรียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ เรียนเก่ง
ส่วนผมน่ะเหรอ หาดีอะไรไม่ได้เลย
แต่...ใครจะคิดล่ะว่าของแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย
มันอยู่ที่ใจของเรามากกว่า
2 เดือนกับการคุยโทรศัพท์กับเธอ...
ผมแทบจะนับได้เลยว่าเธอพูดไปกี่คำ
แต่ช่วงเวลาที่ได้คุยกับเธอมันเป็นความสุขที่สุดของผมในเวลานั้น....
เพื่อนมักบอกว่าทำไมถึงไม่บอกความในใจให้เธอรู้ล่ะ...
ก็เพราะผมไม่กล้าพอน่ะสิ
กลัวว่าถ้าบอกไปความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันนั้นจะหายไป
แต่ถ้าไม่บอกไปเราก็ไม่อาจจะรู้ความในใจของกันและกันได้...
คืนนั้นเราก็คุยโทรศัพท์กันเหมือนทุกวันที่คุยกัน....
“แอน...มินอยากถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“ได้สิ”
“ตั้งแต่คุยกันมาแอนว่ามินเป็นคนแบบไหน”
“ไม่รู้สิ”
“เหรอ...งั้นถามอีกนะ”
“แอนชอบมินมั้ย”
เธอเงียบไปครู่ใหญ่...
เธอคงจะตอบว่าไม่หรือเราคงเป็นได้แค่เพื่อนกัน โอ๊ยย...ไม่อยากคิดเลย
“ชอบ........ค่ะ”
เวลานั้นผมคิดว่าคงเป็นความฝันแต่ไม่ใช่...มันเป็นเรื่องจริงเธอชอบ
ช่วงเวลานั้นผมทำอะไรไม่ถูก
ได้แต่สั่นดีใจอยู่ตลอดเวลา...ผมตั้งสมาธิแล้วถามเธอต่อ
“แล้วอยากรู้มั้ยว่ามินชอบแอนหรือเปล่า”
“อยากสิ”
“มินไม่ได้ชอบแอนครับ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“แต่มินรักแอนมากครับ”
ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดไปได้ยังไง...ผมไม่เคยพูดหวานๆ แบบนี้กับใครเลย
เธอคงเป็นคนแรก...
หลังจากวันนั้นเรา 2 คนก็ได้รู้จักกันมากขึ้น
นิสัยของเธอจริงๆ แล้ว เป็นคนออกจะบ๊องๆ
แต่นั่นก็เป็นความน่ารักอย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยเบื่อเธอเลย
ผมมักจะคิดอยู่เสมอๆ ว่าคนน่ารักอย่างเธอทำไมถึงต้องมาชอบคนแบบผม
ผมถามเธอหลายครั้งแต่ก็มักจะได้คำตอบที่เหมือนเดิมเสมอ เธอชอบที่ผมเป็นผม
ซึ่งมันก็ทำให้ผมงงพอควร
แต่ผมก็ไม่เค้นที่จะถามอะไรเธอมากนัก
แต่เธอจะรู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นกำลังใจของผม จากชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อของคนๆ หนึ่ง
วันๆ เอาแต่เล่นๆ เรียนไม่เคยจริงจังกับอะไรซักอย่าง...เธอเป็นคนเปลี่ยนแปลงผม
ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าผมไม่ไล่ตามเธอให้ทัน ในอนาคตเธอจะรักเหรอ
ถ้าไม่ตั้งใจทำอะไรจริงจัง เธอจะไว้ใจเหรอ
ผมเริ่มหันมาสนใจกับการเรียนมากขึ้นและเลือกที่จะจับกีฬาเพียงอย่างเดียว
จากเมื่อก่อนที่ผมเล่นเป็นสิบๆ อย่าง
ผมไม่รู้ตัวเองว่าทำไปไม ถ้าวันหนึ่งเธอทิ้งไปผมจะไม่ฆ่าตัวตายเลยเหรอ
หัวใจของผมในตอนนั้นให้เธอไปหมด
ผมถามเธอว่ารักผมแค่ไหนเธอก็มักจะบอกว่าก็รัก
รักมากและจะรักตลอดไป...เธอบอกว่าเธอเชื่อใจผมว่าผมจะรักเธอ...
แล้วผมจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เชื่อใจเธอ
ผมกับเธอมักจะมีเรื่องขัดใจกัน แต่หลังจากที่มีเรื่องกัน
มันก็ทำให้เรารักกันและรู้นิสัยกันมากขึ้นกว่าเก่า
จากวันนั้นมาจนวันนี้เป็นเวลา 1 ปีแล้ว
ผมอยากจะขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจให้ผม....
ขอบคุณสำหรับเสียงน่ารักๆ...ทุกครั้งที่ได้ยินมันทำให้ผมรู้สึกสดใสมากขึ้น...
“แอน...ถ้าวันนึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะ”
“ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะค่ะ”
“มินกลัวว่าในอนาคตเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันน่ะสิ”
“ถึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ใจเราก็ไกล้กันนี่คะ”
“แอนคิดแบบนั้นเหรอ”
“ค่ะ”
เรื่องนี้ผมเคยถามเธอมานานแล้ว....
มันได้หวนกลับมาในวันหนึ่งวันที่เธอจากไป.....ไม่มีวันกลับมา
“แอนครับ พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันนะ”
“ค่ะ ไปสิเจอกันกี่โมงคะ”
“เจอทีเดิมนะครับ 8 โมง”
“ค่ะแล้วเจอกัน”
วันนั้นผมตื่นสายจึงทำให้ผมไปช้ากว่าเวลานัดมาก...
ผมไปถึงที่แต่กลับไม่เจอเธอทั้งๆ ที่ปกติแล้วเธอเป็นคนที่ทนต่อการรอคอยมาก...
ผมจึงโทรไปที่บ้านซึ่งก็ออกมานานแล้ว
ผมนั่งอยู่สักพักก็ไม่เห็นเธอ จึงถามป้าที่ขายหนังสือ
“ป้าครับเห็นเด็กผู้หญิงขาวๆ หน้าตาดีตัวไม่สูงมากเดินอยู่แถวนี้มั้ยครับ”
ป้าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็บอกว่า
“ใช่เด็กเมื่อเช้าที่ถูกรถชนหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เพราะเมื่อเช้ามีเด็กถูกรถชน”
ผมตกใจมากและก็หวังว่าคงไม่ใช่เธอนะ
“ลักษณะเป็นอย่างที่ผมบอกเลยเหรอครับ”
“เอ...ป้าก็ไม่ค่อยแน่ใจนะรู้แต่ว่าเป็นเด็กผู้หญิง”
“งั้น...ขอบคุณครับ”
ผมโทรไปที่บ้านอีกครั้งหนึ่งแต่คราวนี้ไม่มีใครรับสาย
ผมจึงโทรเข้ามือถือของพ่อแอนซึ่งผมก็ไม่กล้าโทรไปเท่าไหร่...
ผมได้คำตอบจากพ่อไม่ดีเท่าไหร่
ท่านบอกว่าแอนอยู่โรงพยาบาลโดนรถชนเมื่อเช้า อาการหนักมาก
ผมจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที
เวลานั้นผมทำอะไรไม่ถูก ระหว่างทางน้ำตาที่ไม่เคยออกจากตาผมมาหลายปี
กลับทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสาย ผมได้แต่พร่ำบ่นอยู่คนเดียวว่า
“แอนอย่าเป็นอะไรนะ”
ผมไปถึงโรงพยาบาล พบพ่อกับแม่ของแอน
แม่ของแอนร้องไห้จนเป็นลมสลบไป ส่วนพ่อของแอนก็เดินวนไปวนมาตลอด
ประมาณ 3 ชั่วโมงหมอออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมสีหน้าที่ตึงเครียด
พ่อแอนบึ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที
“แอนเป็นยังไงบ้างครับ”
“ทำใจดีๆ ไว้นะครับ...ตอนนี้หมอได้ช่วยชีวิตไว้แล้วแต่ยังไม่พ้นขีดอันตราย”
“หมายความว่าไงครับ”
“เป็นตายเท่ากันครับ”
เวลานั้นทุกคนสีหน้าเครียดมาก ส่วนผมก็ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้...
เวลานั้นผมอยากเข้าไปหาแอนมาก แต่คุณหมอไม่อนุญาต...
ผมกลับบ้านทั้งน้ำตา แม่ของผมแปลกใจเพราะแกไม่เคยเห็นผมร้องไห้เลย
“มินเป็นอะไรไปลูก”
“วันนี้มินไม่สบายครับ ข้าวเย็นไม่ต้องทำนะ มินจะนอนแล้ว”
คืนนั้นผมได้แต่ภาวนาเพื่อขอให้แอนปลอดภัย
ผมขอร้องให้พระเจ้าโปรดอย่าเอาคนดีๆ แบบเธอไปเลย
จะมีใครอีกมั้ยที่ดีเท่าเธอจะมีอีกมั้ยกับเสียงหัวเราะเบาๆ จะมีใครอีกมั้ยที่เหมือนเธอ......
วันนี้ผมออกจากบ้านแต่เช้า...ผมพบพ่อของแอนอยู่หน้าห้องพ่อแอนเอ่ยปากสั้นๆ ว่า
“แอนคงอยากพบน่ะ เข้าไปสิ”
ลักษณะท่าทางของแอนยังเหมือนเดิม เพียงแต่มีสายอะไรต่ออะไรไม่รู้เต็มไปหมด
แอนเหลือบมองผมแล้วก็มีน้ำตาไหลออกมา แอนพูดอะไรมากไม่ได้
เพราะทุกครั้งที่เธอพูดเธอจะเจ็บไปทั้งตัว
ผมเข้าไปกุมมือของแอนพร้อมกับน้ำตา
“แอนครับ..แอนต้องอดทนนะมินจะอยู่ข้างๆ”
สีหน้าของแอนบอกกับผม ซึ่งผมก็พอรู้ว่าเธอจะพูดอะไร
เธอเจ็บมากเธอจะทนมันไม่ไหวอยู่แล้ว
“อดทนไว้นะแอน อีกไม่นานมันก็หายนะ”
วันนั้นผมนั่งเฝ้าแอนอยู่ทั้งวันแล้วก็ครุ่นคิดว่าผมเองที่เป็นตัวต้นเหตุ...
ถ้าวันนั้นผมไม่ชวนเธอไปเที่ยว...เธอคงไม่ต้องเป็นแบบนี้...
ทำไมคนดีๆ อย่างเธอต้องมาเป็นแบบนี้ทำไมไม่เกิดขึ้นกับผมแทนนะ.....
ก่อนกลับผมนั่งคุยกับพ่อแอนอยู่ครู่หนึ่ง ท่านบอกว่าถ้าแอนรอดก็ปาฏิหาริย์เพราะหมอบอกว่า
โอกาสรอดน้อยมาก.....ผมเดินซึมๆ กลับบ้านเป็นวันที่ 2
ผมได้แต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่พูดไม่จากับใครทั้งนั้น
เพื่อนๆ ผมที่รู้เรื่องก็โทรมาปลอบแต่มันก็ไม่ช่วยทำให้ผมดีขึ้นเลยซักนิด....
คืนนั้นผมหวนมาคิดเรื่องอดีตของเราทั้ง 2 คน
ยิ่งผมคิดมากขึ้นเท่าไหร่มันก็ทำให้ผมร้องไห้ออกมาทุกครั้ง
ผมภาวนาขอร้องพระเจ้าทุกคืน ผมไม่หวังอะไรแล้วในตอนนี้
ผมขอเพียงแค่ให้เธอปลอดภัยเท่านั้น
เช้าวันนี้ผมก็ยังไปเยี่ยมแอนเหมือนเคย....แต่ผมกลับไม่พบแอนอยู่ที่ห้อง
ผมเดินไปถามพยาบาลเธอบอกว่าแอนช็อค ตอนนี้เธออยู่ห้องไอซียู...
เวลานั้นผมกังวลมาก ผมหวังว่าแอนคงจะปลอดภัยนะ
แต่เมื่อผมเจอพ่อแอน เห็นพ่อแอนร้องไห้ผมก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“แอนเสียแล้ว”
คำพูดสั้นๆ ของพ่อเธอมันทำให้ผมเหมือนตายทั้งเป็น
ทำไมล่ะ....ทำไมถึงต้องเอาคนดีๆ อย่างเธอไป
ปาฏิหาริย์สำหรับคนดีๆ อย่างเธอไม่มีเลยเหรอ...ผมเข้าไปในห้องกอดร่างของเธอทั้งน้ำตา
“แอนครับ...แอนล้อมินเล่นใช่มั้ย ทำไมแอนต้องหนีมินไปด้วย
ที่เราเคยสัญญากันแอนลืมไปแล้วเหรอ แอนนนนน แอนตื่นขึ้นมาสิครับ แอนนนนนน!!!”
ผมร้องไห้แทบจะเป็นบ้า....ตอนนี้ผมได้สูญเสียคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตผมไปแล้ว
ผมไม่เหลืออะไรแล้ว
หลังจากนี้ผมจะไล่ตามใครล่ะ...แล้วผมจะต้องทำเพื่อใครอีก
จะมีใครอีกมั้ยครับที่เหมือนเธอ
จะมีอีกมั้ยที่ดีเท่าเธอ...นิสัยบ๊องๆ ที่ผมเห็นประจำ
เสียงหัวเราะเบาๆ ที่เคยได้ยินเสมอๆ
เรื่องกลุ้มใจที่มักจะปรึกษากันประจำ
จากวินาทีจะไม่มีคนๆ นี้อีกแล้ว........
จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นวลา 3 ปีแล้ว
ผมยังไม่เจอผู้หญิงคนไหนที่เหมือนเธอเลยซักคน ทุกครั้งที่คิดถึงแอน
ผมจะมองขึ้นไปบนฟ้าอยู่เสมอ
ผมเห็นเธอกำลังยิ้มให้...เธอจะเป็นกำลังใจให้ผมอยู่ข้างบน
ถึงแม้เธอจะไม่อยู่ข้างๆ ผมแล้ว...แต่ผมยังจำคำๆ หนึ่งที่เธอเคยบอกผมว่า
“ถึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ใจเราก็อยู่ใกล้กันนี้คะ”
ใช่ครับแอน...ใจของเราจะอยู่ใกล้กัน....เรา 2 คนจะอยู่ด้วยกันตลอดไป....
--
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น